เมืองฮิตติดชาร์ต อย่าง“โอซากา” ประเทศญี่ปุ่น เดสติเนชันท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งด้านการค้าและวัฒนธรรม ที่วันนี้ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
เมืองแห่งนี้ในอีกมุมมองหนึ่ง ยังขึ้นชื่อเรื่องความเป็นเมืองแห่ง “อาหาร” Take a Trip ฉบับนี้ เลยจะนำคุณไปชิมอาหารรสชาติต้นตำรับกันถึงถิ่น
ว่าแล้วความอร่อยในวันแรก เราได้แวะไปทักทายกับเมนูพิเศษ “ทงคัตสึ” เจ้าดังของเมืองโอซากา ณ “ร้าน TONKATSU HIROKI” แม้ร้านจะไม่ใหญ่โตโอ่อ่า แต่ความอร่อยมาเต็ม กับจานเด็ดหมูชุบแป้งทอดผสมกับกุ้งชุบแป้งทอดตัวใหญ่ วางบนกะหลํ่าปลี ฝอยที่ซอยอย่างละเอียดดูน่ากิน เพียงคำแรกรู้สึกได้ถึงความหอมของหมูทอด แป้งกรอบกำลังดี ไม่แข็งกระด้าง กินไปกินมาหมดจานไม่รู้ตัว
ร้าน TURUTONTAN HONMACHISAKURA
จากนั้นพักท้องด้วยการนั่งรถเที่ยวชมเมือง และต่อมื้อกลางวัน ด้วยระดับซูเปอร์พรีเมียม ที่ “ร้าน TURUTONTAN HONMACHISAKURA” เพลิดเพลินกับเมนูเส้นๆ ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง “ราเมน” ต้นตำรับฉบับโอซากา ก่อนจะถึงอาหารจานหลัก “อูด้ง” ชาม(อย่าง)ใหญ่ราวกะละมัง ก็มีเมนูเรียกนํ้าย่อยกับสารพัดปลา ทั้ง ปลาดิบตัดพอคำ, ซูชิหน้าปลาดิบ แต่ที่แปลกตา น่าจะเป็นปลาย่างราดหน้าด้วยเต้าเจี้ยวบดละเอียด ดูเผินๆ เหมือนราดช็อกโกแลต รสชาติใช้ได้ น่าจะถูกปากคนไทย และกว่าอูด้งจะมาดูเหมือนกระเพาะเกือบเต็มเสียแล้ว แต่พอได้ซดนํ้าซุปถึงกับวางตะเกียบไม่ลงทีเดียว
มาโอซากาทั้งที อาหารที่คุณต้องจัดไปสักมื้อใดมื้อหนึ่ง คือ “เมนูปู” เป็นไฮไลต์ห้ามพลาด และเป็นอีกหนึ่งรายการที่ต้องชิม ซึ่งมีอยู่หลายร้าน แถมทุกร้านมีป้ายรูปปูตัวใหญ่เป็นโลโกติดอยู่ บ่งบอกว่าถ้ามาแล้วไม่ได้ชิมปู ถือว่ามาไม่ถึงโอซากา แต่ร้านที่เราแนะนำ คือ “ร้าน TUNAMOTO” แต่ละจานที่เสิร์ฟล้วนระดับพรีเมียม หลากหลายเมนูหลายสายพันธ์ุจากท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นก้ามปูนึ่ง ก้ามปูดิบ ซุปปู จนถึงข้าวปั้นหน้าปู ถือว่าเต็มอิ่มกับเมนูปูกันเลยทีเดียว
เมื่อท้องอิ่ม กองทัพนักเที่ยวได้แวบไปชมความงาม “ปราสาทฮิเมะจิ” สิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น
จุดเด่นของปราสาทฮาเมะจิ ก็คือตัวปราสาทมีสีขาว ชาวญี่ปุ่นเรียกขานว่า ปราสาทนกกระสาขาว จากประตูทางเข้ากว่าจะเดินสู่อาคารหลัก ทางเดินค่อนข้างสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆ ในปราสาทได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย ตามกำแพงบางช่วงบางตอนจะเห็นช่องใส่ปืนใหญ่บ้าง รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท ค่อนข้างทุลักทุเลบ้างจังหวะปีนบันไดขึ้นแต่ละชั้น ที่ทั้งแคบทั้งชัน ชั้นบนสุดจะมีพระพุทธรูปแบบญี่ปุ่นให้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะค่อยๆ ไต่กลับมาพื้นล่าง
ปราสาทฮาเมะจิ
อารมณ์จะคนละฟีลกับปราสาทโอซาก้า ที่มีลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการขึ้นสู่จุดชมวิวเมืองโอซากา จากตัวปราสาท ยิ่งถ้ามาช่วงต้นปีราวๆ มกราคม ทางเมืองจะจัดการแสดงประกอบแสงสีเสียงบนปราสาทแห่งนี้ให้ ชมการแสดงท่ามกลางสภาพอากาศหนาว ถึงฟังภาษาญี่ปุ่นไม่เข้าใจแต่ก็สนุกได้ไม่แพ้คนพื้นถิ่นกันเลยทีเดียว
